• Sample Page
newsthailan.tfvp.org
No Result
View All Result
No Result
View All Result
newsthailan.tfvp.org
No Result
View All Result

เดือดสะเทือนการเมือง! คำวิจารณ์พุ่งใส่ “พรรคประชาชน” ระบุ “ต่อให้เอาชีวิตทั้งพรรคก็ยังไม่พอชดใช้”

admin79 by admin79
December 15, 2025
in Uncategorized
0
เดือดสะเทือนการเมือง! คำวิจารณ์พุ่งใส่ “พรรคประชาชน” ระบุ “ต่อให้เอาชีวิตทั้งพรรคก็ยังไม่พอชดใช้”

บทสรุปภาพรวมอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ไทย ปี 2566: กลยุทธ์การรับมือความท้าทายและผู้ชนะที่แท้จริง

ปี 2566 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ถือเป็นบททดสอบครั้งสำคัญสำหรับแวดวง อสังหาริมทรัพย์ไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ การคาดการณ์ถึงโมเมนตัมเชิงบวกต่อเนื่องจากปี 2565 ที่มีสัญญาณของการฟื้นตัว กลับต้องเผชิญกับภาวะชะลอตัวที่ยืดเยื้อยาวนาน จากปัจจัยการเมืองในช่วงก่อนการเลือกตั้งใหญ่ และต่อเนื่องมาจนถึงช่วงปลายปี แม้แต่ในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งความคึกคักตามปกติ (High Season) ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ก็ยังไม่แสดงสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน ส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายและพัฒนาโครงการยังคงซบเซาต่อเนื่องจนเข้าสู่ปี 2567

ในฐานะผู้ที่มีประสบการณ์ในวงการ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ มากว่าหนึ่งทศวรรษ ผมได้ติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดอย่างใกล้ชิด และเข้าใจถึงความซับซ้อนของปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จและล้มเหลวของธุรกิจในยุคปัจจุบัน Property Mentor ได้รวบรวมข้อมูลทางการเงินของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ 41 แห่งที่ทำการซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อวิเคราะห์ผลการดำเนินงานในปี 2566 อย่างละเอียด โดยมีเป้าหมายเพื่อประเมินว่าแต่ละบริษัทสามารถปรับตัวและรับมือกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ผันผวนนี้ได้อย่างไร และใครคือผู้ที่สามารถยืนหยัดเป็น “ผู้ชนะที่แท้จริง” ในสมรภูมิ อสังหาริมทรัพย์ประเทศไทย

ภาพรวมรายได้รวม: การชะลอตัวที่เกิดขึ้นจริง

จากการวิเคราะห์ข้อมูลของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ทั้ง 41 แห่ง พบว่า ในปี 2566 บริษัทเหล่านี้มีรายได้รวมกันทั้งสิ้นประมาณ 371,560 ล้านบาท ซึ่งลดลงเล็กน้อยราว 1.2% เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่มีรายได้รวม 376,141 ล้านบาท ตัวเลขนี้อาจดูไม่มากนัก แต่เมื่อพิจารณาเป็นรายบริษัท จะพบว่ามีถึง 25 จาก 41 บริษัท หรือคิดเป็นประมาณ 61% ที่มีรายได้รวมลดลงจากปีก่อนหน้า ซึ่งบ่งชี้ถึงสภาวะการชะลอตัวที่เกิดขึ้นในวงกว้าง

การปรับตัวและผลกระทบต่อรายได้: รายละเอียดที่น่าสนใจ

หลายบริษัทเผชิญกับการปรับตัวของรายได้ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของตลาด ได้แก่ L.P.N. Development (LPN), Eastern Star Real Estate (ESTAR) และ Country Group Development (CGD) ซึ่งมีรายได้รวมลดลงในอัตราที่สูงถึงประมาณ -28% นอกจากนี้ ยังมี Raimon Land (RML) ที่มีรายได้ลดลง -26%, Lalin Property (LPH) -23%, Major Development (MD) -22% และ Siamese Asset (SA) -21%

แม้แต่ยักษ์ใหญ่ในวงการอย่าง Land and Houses (LH) ก็ยังไม่พ้นจากภาวะนี้ โดยมีรายได้รวมติดลบถึง 18% และเป็นที่น่าสังเกตว่า ในกลุ่ม 10 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีรายได้รวมสูงสุดในปี 2566 ถึง 5 บริษัท มีรายได้รวมลดลงเมื่อเทียบกับปี 2565 นอกเหนือจาก Land and Houses แล้ว ยังมี AP (Thailand) (AP) ที่มีรายได้ลดลงเล็กน้อยไม่ถึง -1%, Supalai (SPALI) -10%, Pruksa Holding (PPH) -9% และ Origin Property (ORI) ที่มีรายได้รวมลดลงประมาณ -4%

การจัดอันดับรายได้รวม 10 อันดับแรก: แสนสิริ ผงาดขึ้นเป็นผู้นำ

สำหรับ 10 อันดับแรกของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีรายได้รวมสูงสุดในปี 2566 มีดังนี้:

แสนสิริ (SIRI): 39,082 ล้านบาท (เติบโต 12%)
เอพี (ไทยแลนด์) (AP): 38,399 ล้านบาท
ศุภาลัย (SPALI): 31,818 ล้านบาท
แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LH): 30,170 ล้านบาท
พฤกษา โฮลดิ้ง (PPH): 26,132 ล้านบาท
เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC): 24,487 ล้านบาท
ยูนิเวนเจอร์ (UV): 17,672 ล้านบาท
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) (FPT): 16,169 ล้านบาท
ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI): 15,157 ล้านบาท
สิงห์ เอสเตท (S): 15,066 ล้านบาท

วิเคราะห์เชิงลึก: รายได้จากการขาย – ตัวชี้วัดที่แท้จริงของผลการดำเนินงาน

อย่างไรก็ตาม หากเราต้องการประเมินผลการดำเนินงานที่แท้จริงของบริษัท พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เราควรพิจารณาที่ “รายได้จากการขาย” เป็นหลัก เนื่องจากรายได้รวมของบางบริษัทอาจมาจากแหล่งอื่นที่นอกเหนือจากการขายโครงการ ซึ่งอาจไม่สะท้อนถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจหลักได้อย่างเต็มที่ การวิเคราะห์เฉพาะรายได้จากการขายจะช่วยให้เห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

เมื่อรวมรายได้จากการขายของทั้ง 41 บริษัทในปี 2566 จะอยู่ที่ประมาณ 268,460 ล้านบาท ซึ่งลดลงประมาณ 11% เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่มีรายได้จากการขายรวมประมาณ 299,979 ล้านบาท ยิ่งไปกว่านั้น มีถึง 30 จาก 41 บริษัท หรือคิดเป็นประมาณ 73% ที่มีรายได้จากการขายลดลงจากปีก่อนหน้า ซึ่งสะท้อนถึงความท้าทายที่รุนแรงขึ้นในตลาด อสังหาริมทรัพย์กรุงเทพ และหัวเมืองหลัก

บริษัทที่เผชิญความท้าทายด้านรายได้จากการขาย:

ไรมอน แลนด์ (RML): มีรายได้จากการขายตกลงถึง -78%
แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN): รายได้จากการขายลดลงเกือบ -40%
แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LH): น่าตกใจที่รายได้จากการขายลดลงถึง -38%
เอพี (ไทยแลนด์) (AP): แม้จะเป็นเบอร์ 1 ในแง่รายได้จากการขาย แต่ก็ยังมีรายได้จากการขายลดลงเล็กน้อยที่ -2%

เป็นที่น่าสังเกตว่า ไม่ใช่แค่บริษัทขนาดใหญ่เท่านั้นที่มีรายได้จากการขายติดลบ แต่ในกลุ่ม 10 บริษัทที่มีรายได้จากการขายสูงสุด ยังมีถึง 8 บริษัทที่เผชิญกับรายได้จากการขายที่ลดลง

การจัดอันดับรายได้จากการขาย 10 อันดับแรก: AP (Thailand) ชิงบัลลังก์ผู้นำ

สำหรับ 10 อันดับแรกของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ทำรายได้จากการขายสูงสุดในปี 2566 มีดังนี้:

เอพี (ไทยแลนด์) (AP): 36,927 ล้านบาท
แสนสิริ (SIRI): 32,829 ล้านบาท (เติบโต 7% และเป็น 1 ใน 2 บริษัทที่มีรายได้จากการขายเติบโต)
ศุภาลัย (SPALI): 30,836 ล้านบาท
เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC): 23,370 ล้านบาท (เติบโต 13% และเป็นอีกบริษัทที่เติบโตในแดนบวก)
พฤกษา โฮลดิ้ง (PPH): 22,357 ล้านบาท
แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LH): 18,966 ล้านบาท (ยังคงอยู่ใน Top 10 แม้รายได้จากการขายจะลดลง)
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) (FPT): 10,019 ล้านบาท
ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI): 8,840 ล้านบาท (แม้รายได้จะลดลง -24% แต่ยังคงอยู่ใน Top 10)
ควอลิตี้ เฮ้าส์ (QH): 7,619 ล้านบาท
พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF): 7,171 ล้านบาท

ผู้มาแรงในตลาด: Central Pattana (CPN)

อีกหนึ่งบริษัทที่น่าจับตามองและมีผลงานโดดเด่นอย่างยิ่งในปี 2566 คือ Central Pattana (CPN) ซึ่งได้แสดงศักยภาพจากการพัฒนาโครงการ อสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ที่หลากหลาย การลงทุนเพื่อสร้างฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งกำลังเริ่มให้ผลตอบแทนที่งดงาม ในปี 2566 CPN สามารถสร้างรายได้จากการขายได้ถึง 5,835 ล้านบาท เติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 103% จาก 2,870 ล้านบาทในปี 2565 การเติบโตนี้บ่งชี้ถึงความสำเร็จในการปรับกลยุทธ์และตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างตรงจุด

กำไรสุทธิ: บทพิสูจน์ความสามารถในการทำกำไรที่แท้จริง

เมื่อพิจารณาถึง “กำไรสุทธิ” ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสุดท้ายที่สะท้อนถึงความสามารถในการทำกำไรขององค์กรอย่างแท้จริง ในปี 2566 ทั้ง 41 บริษัท มีกำไรสุทธิรวมกันประมาณ 44,165 ล้านบาท ซึ่งลดลง -11% เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่มีกำไรสุทธิรวมประมาณ 49,602 ล้านบาท

สถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงคือ มีมากกว่า 12 บริษัทที่ประสบปัญหาการขาดทุน ซึ่งบางบริษัทประสบปัญหาขาดทุนต่อเนื่องมา 3-4 ปี ตั้งแต่ช่วงการระบาดของโควิด-19 และยังไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาได้ นอกจากนี้ กว่า 20 บริษัทจาก 41 แห่ง มีกำไรสุทธิลดลงจากปี 2565 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า แม้จะสามารถสร้างรายได้ แต่ความสามารถในการทำกำไรก็ลดน้อยลงเช่นกัน

ผู้ชนะที่แท้จริงด้านกำไร: Land and Houses (LH) นำทัพ

สำหรับ 10 อันดับแรกของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถทำกำไรได้สูงสุดในปี 2566 มีดังนี้:

แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LH): 7,495 ล้านบาท (แม้รายได้รวมลดลง แต่กำไรสูงสุด โดยได้แรงหนุนจากการขายโรงแรม 2 แห่งเข้ากองทุน มูลค่า 2,500 ล้านบาท)
ศุภาลัย (SPALI): 6,083 ล้านบาท
เอพี (ไทยแลนด์) (AP): 6,054 ล้านบาท
แสนสิริ (SIRI): 5,846 ล้านบาท (เติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 42%)
ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI): 3,160 ล้านบาท (แม้กำไรจะลดลง -25% จากปีก่อน)
เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC): 2,525 ล้านบาท
ควอลิตี้ เฮ้าส์ (QH): 2,503 ล้านบาท
พฤกษา โฮลดิ้ง (PPH): 2,339 ล้านบาท
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) (FPT): 1,865 ล้านบาท
เซ็นทรัลพัฒนา (CPN): 1,610 ล้านบาท (ประมาณการจากกำไรก่อนหักภาษีเงินได้ 1,975 ล้านบาท)

แนวโน้มปี 2567: ความท้าทายที่ยังคงอยู่

ผลการดำเนินงานของบริษัท อสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ทั้ง 41 แห่ง ที่รวบรวมโดย Property Mentor ชี้ให้เห็นถึงภาพรวมที่ท้าทายของภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2566 แม้จะมีบริษัทที่สามารถปรับตัวและรักษาความสามารถในการแข่งขันไว้ได้ แต่โดยรวมแล้ว ตลาดกำลังเผชิญกับแรงกดดันรอบด้าน

สำหรับปี 2567 คาดการณ์ว่าจะเป็นอีกปีที่ยากลำบากสำหรับวงการ อสังหาริมทรัพย์ ความสามารถในการปรับตัวอย่างรวดเร็ว การบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ การสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค และการวางกลยุทธ์ทางการตลาดที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะชี้วัดความสำเร็จของแต่ละบริษัท

หากท่านเป็นนักลงทุน ผู้ประกอบการ หรือผู้ที่สนใจในตลาด อสังหาริมทรัพย์ ที่ต้องการข้อมูลเชิงลึกและคำแนะนำในการวางกลยุทธ์เพื่อรับมือกับความผันผวนของตลาด ขอเชิญปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเรา เพื่อร่วมกันค้นหาโอกาสและสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของท่าน ท่ามกลางความท้าทายที่เรากำลังเผชิญอยู่.

Previous Post

เล่านาทีสุดท้าย พยาบาลสาวเพิ่งลงเวร ก่อนถูกรถเก๋งพุ่งชน เสียชีวิตอย่างสลด

Next Post

ทภ.2 ชี้แจงภาพรถขนน้ำมันช่องเม็กมากผิดปกติ พร้อมสรุปภาพรวมสถานการณ์ชายแดนล่าสุด

Next Post
ทภ.2 ชี้แจงภาพรถขนน้ำมันช่องเม็กมากผิดปกติ พร้อมสรุปภาพรวมสถานการณ์ชายแดนล่าสุด

ทภ.2 ชี้แจงภาพรถขนน้ำมันช่องเม็กมากผิดปกติ พร้อมสรุปภาพรวมสถานการณ์ชายแดนล่าสุด

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • บุกจับยกแก๊ง! คนร้ายตระเวนลักทรัพย์ทั่วกรุง ทั้งบ้าน ร้านอาหาร ยัน รพ.สัตว์ สารภาพชัดทำเป็นอาชีพ ก่อเหตุซ้ำไม่เว้นวัน
  • ปิดเกมเงียบ! ตำรวจบุกทลายแม่ข่ายหวยใต้ดินออนไลน์ “บ้านทรัพย์มหาศาล” กลางพิมาย ยึดของกลางอื้อ เผยตัวเลขเงินหมุนเวียนสะพรึง 7.2 ล้านต่อปี ใครอยู่เบื้องหลัง?
  • เพจดังปล่อยคลิประทึก! วัยรุ่นขี่รถวนรอบเมรุไปส่งเพื่อนเป็นครั้งสุดท้าย แต่พลาดนิดเดียวเกือบได้ตามเพื่อนไป ชาวเน็ตถล่มคอมเมนต์สนั่นโซเชียล
  • ใครคือชายฮีโร่ในดวงใจที่ทำให้ “ยายหนิง” ต้องบินไกลถึงเท็กซัส? เปิดภาพคุณตาผู้กาลเวลาไม่อาจพราก—อายุร้อยปี ยังแข็งแรง พร้อมของฝากที่ทำเอาหลายคนซึ้ง
  • เสียงชื่นชมล้นโซเชียล! ‘หมู่หน่อง’ ตำรวจจราจร สน.บางซื่อ ไม่ลังเลกระโดดลงคลองช่วยชายสูงวัย ปลอดภัยก่อนเครื่องแบบ—เลอะโคลนก็ไม่สน

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.